ก่อนซื้อทองต้องรู้! เจาะลึกวิธีคำนวณน้ำหนักทองคำและความหมายที่ซ่อนอยู่

การซื้อทองคำไม่ใช่เพียงการเลือกดีไซน์สวยหรือราคาถูกใจ แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดคือ “น้ำหนักทองคำ” เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับราคา ความคุ้มค่า และการลงทุนในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจวิธีคำนวณน้ำหนักทองคำแบบละเอียด พร้อมไขข้อสงสัยที่หลายคนยังไม่เคยรู้

 

ทำไมการรู้วิธีคำนวณน้ำหนักทองคำจึงสำคัญ?

ทองคำไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่ยังเป็น สินทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่ต้องการมาตรฐานสูงในการซื้อขาย

  • เพื่อประเมินราคาได้ด้วยตนเอง
  • เพื่อใช้ในการวางแผนสะสมทองคำหรือลงทุนทองคำแท่ง
  • เพื่อเข้าใจความแตกต่างระหว่าง “ทองรูปพรรณ” และ “ทองแท่ง”

 

 

หน่วยน้ำหนักทองคำที่ใช้ในประเทศไทย

น้ำหนักทองคำมาตรฐาน

ประเทศไทยใช้ “บาททองคำ” เป็นหน่วยหลัก ซึ่งแตกต่างจาก “บาทเงิน” ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน

  • 1 บาททองคำแท่ง = 15.244 กรัม
  • 1 บาททองคำรูปพรรณ = 15.16 กรัม

ทำไมถึงต่างกัน?

เพราะทองคำแท่งผลิตเพื่อการลงทุน ต้องมีมาตรฐานและความบริสุทธิ์ 96.5% เต็มทุกบาท โดยน้ำหนักจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ส่วนทองรูปพรรณ เมื่อถูกนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน กำไล จะต้องเผื่อ “การสูญเสียน้ำหนัก” จากการขึ้นรูป การเชื่อม หรือการขัดเงา จึงถูกกำหนดให้น้ำหนักมาตรฐานต่อ 1 บาททองรูปพรรณอยู่ที่ 15.16 กรัม เล็กน้อยน้อยกว่าแท่ง

การแบ่งหน่วยย่อย

ทองคำไม่ได้ซื้อขายกันเฉพาะหน่วย “บาท” แต่ยังแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยเพื่อความสะดวกในการซื้อขาย เช่น

  • 1 บาททองคำ = 4 สลึง
  • 1 สลึง = 3.79 กรัม
  • ครึ่งสลึง = 1.89 กรัม
  • 2 สลึง = 7.58 กรัม

📌 หมายเหตุ:

  • หน่วยกรัมที่ใช้ในการคำนวณนี้ยึดตามมาตรฐานทองคำในประเทศไทย (96.5% ความบริสุทธิ์)
  • ต่างประเทศบางแห่ง เช่น สหรัฐอเมริกา นิยมใช้ “ทรอยออนซ์ (Troy Ounce)” โดย 1 ทรอยออนซ์ = 31.1035 กรัม ซึ่งหากคุณซื้อทองคำจากต่างประเทศต้องแปลงหน่วยให้ถูกต้อง

👉 การเข้าใจเรื่องหน่วยย่อยเหล่านี้ช่วยให้คุณคำนวณได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าอยากซื้อทอง 2 สลึง ก็จะเท่ากับ 0.5 บาท หรือประมาณ 7.58 กรัม

 

 

วิธีคำนวณน้ำหนักทองคำเบื้องต้น

สูตรคำนวณทองรูปพรรณ

ราคาทองรูปพรรณ = (น้ำหนักทอง x ราคาทองต่อบาท) + ค่ากำเหน็จ

เช่น สร้อยทอง 2 สลึง ราคาทองบาทละ 34,000 บาท ค่ากำเหน็จ 500 บาท → ราคา = (0.5 x 34,000) + 500 = 17,500 บาท

 

สูตรคำนวณทองคำแท่ง

ราคาทองแท่ง = น้ำหนักทอง x ราคาทองต่อบาท

เช่น ทองแท่ง 5 บาท ราคาทองบาทละ 34,000 บาท → 5 x 34,000 = 170,000 บาท

✅ แต่ในกรณีที่ซื้อทองแท่งตามร้านทองทั่วไป จะมีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในเรื่องของค่า Box ซึ่งค่า Box ของแต่ละร้านก็จะราคาไม่เท่ากัน (โดยปกติแล้ว ค่าBox จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของทองคำแท่งที่ซื้อ ยิ่งซื้อในน้ำหนักที่สูงขึ้น ค่าBox ก็จะถูกลง)

 

 

น้ำหนักทองคำกับกลยุทธ์การลงทุน

  • ทองคำแท่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุน เพราะไม่มีค่ากำเหน็จ
  • ทองรูปพรรณ เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานจริงและสะสม เนื่องจากสามารถใส่ได้และยังขายคืนได้

 

 

เทคนิคเลือกซื้อทองคำให้คุ้มค่า

  1. เช็ก ราคาทองคำประจำวัน จาก สมาคมค้าทองคำ
  2. เลือกร้านทองที่มีมาตรฐาน เช่น Bangkokgolds เพราะร้านอยู่ในสมาคมค้าทองคำมานานกว่า 20 ปี และอยู่บนห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทยมากถึง 50 สาขา
  3. ตรวจสอบใบรับประกันทองทุกครั้ง
  4. เข้าใจการคำนวณน้ำหนักทองด้วยตนเองก่อนตัดสินใจซื้อ

 

 

บางกอกโกลด์ส แหล่งทองคำที่คุณมั่นใจได้

หากคุณต้องการซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ มั่นใจ และมีใบรับประกัน ได้ที่ บางกอกโกลด์ส

 

 

สรุป

การรู้จัก น้ำหนักทองคำมาตรฐานและการคำนวณอย่างถูกต้อง เป็นกุญแจสำคัญในการซื้อทองทั้งเพื่อความสวยงามและเพื่อการลงทุน หากเข้าใจเรื่องหน่วย “บาททองคำ” และการแบ่งหน่วยย่อย คุณจะมั่นใจได้มากขึ้นทุกครั้งที่ซื้อทอง และเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกซื้อจากร้านทองที่น่าเชื่อถือ เช่น บางกอกโกลด์ส ที่พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการลงทุนทองคำอย่างมืออาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *