ทำไมราคาทองคำถึงพุ่งทะลุ 60,000 บาท? เจาะปัจจัยเศรษฐกิจโลกและมุมมองนักลงทุนปี 2025

ราคาทองคำที่ทะยานขึ้นแตะระดับ 60,000 บาทต่อบาททองคำ กลายเป็นกระแสที่คนพูดถึงกันทั้งประเทศในปี 2025 ไม่ว่าจะนักลงทุนรายใหญ่หรือคนทั่วไปที่ถือทองไว้ ต่างก็จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แต่คำถามคือ… อะไรอยู่เบื้องหลังการขึ้นราคาครั้งนี้? และเราควรมองอนาคตของทองคำอย่างไรในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน?

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจอย่างเป็นระบบ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การเงิน และความเชื่อมโยงของทองคำในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน

ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งทะลุ 60,000 บาท

ราคาทองคำไม่ได้ขึ้นเพียงเพราะ “ความต้องการมากขึ้น” เท่านั้น แต่เกิดจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และค่าเงินโลก มาดูปัจจัยสำคัญกัน

1. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก

ในช่วงปี 2024–2025 โลกเผชิญกับปัญหาหลายด้าน เช่น

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและยุโรป
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ
อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงในหลายประเทศ

เมื่อตลาดทุนผันผวน นักลงทุนจึงหันมาถือทองคำในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset)” เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเหล่านี้ ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก

ข้อมูลจาก World Gold Council (WGC) ระบุว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ความต้องการทองคำมักเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 15–20% ต่อปี

2. การอ่อนค่าของเงินบาทและค่าเงินดอลลาร์

ราคาทองคำในไทยได้รับอิทธิพลจากทั้งราคาทองคำโลก (Gold Spot) และค่าเงินบาท
หากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ราคาทองในประเทศจะยิ่งสูงขึ้น แม้ราคาทองโลกจะคงที่ก็ตาม

ตัวอย่างเช่น

ราคาทองโลกอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์/ออนซ์
หากค่าเงินบาทอ่อนจาก 34 บาท/ดอลลาร์→ 37 บาท/ดอลลาร์
ราคาทองในประเทศก็จะเพิ่มขึ้นราว 3,000–4,000 บาท/บาททองคำ

ดังนั้น ผู้ที่ติดตามราคาทองจึงควรสังเกตทั้งสองปัจจัยควบคู่กัน

3. การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก

ในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางหลายประเทศ เช่น จีน, รัสเซีย, อินเดีย, ตุรกี
ได้ทยอยเพิ่มปริมาณทองคำสำรองในคลัง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์
ข้อมูลจาก WGC ระบุว่า ปี 2024 มีการซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกกว่า 1,000 ตัน
ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบกว่า 50 ปี
การซื้อสะสมในระดับนี้ยิ่งทำให้ “ความต้องการทองคำในตลาดโลก” เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

4. ความกังวลต่อหนี้สาธารณะและนโยบายดอกเบี้ย

หลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีภาระหนี้สาธารณะเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์
ขณะเดียวกันธนาคารกลาง (Federal Reserve) เริ่มส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อนักลงทุนคาดว่าดอกเบี้ยจะลดลง พวกเขามักหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น เพราะ

ดอกเบี้ยต่ำ → เงินฝากให้ผลตอบแทนน้อย
ทองคำไม่ให้ดอกเบี้ย แต่รักษามูลค่าในระยะยาว

นี่จึงเป็นอีกแรงผลักสำคัญที่ทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความเชื่อมโยงของราคาทองคำกับพฤติกรรมการลงทุนในไทย

ทองคำไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในเชิงวัฒนธรรมและจิตใจของคนไทยด้วย
คนจำนวนมากถือทองคำในรูปแบบ ทองแท่ง, สร้อย, แหวน, หรือเครื่องประดับมงคล เพราะมองว่าเป็นทรัพย์สินที่ “จับต้องได้” และมีคุณค่าทั้งด้านการเงินและความเชื่อ

สามารถเลือกชมทองคำแท่งและเครื่องประดับมงคลเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokgolds.com หรือ Facebook: Bangkok Golds

พฤติกรรมผู้บริโภคไทยกับทองคำยุคใหม่

แม้ราคาทองจะสูง แต่คนไทยยังนิยม “เก็บทองเป็นทรัพย์สะสม”
โดยเฉพาะทองคำแท่งน้ำหนักเล็ก เช่น 0.25 บาท หรือ 0.5 บาท ซึ่งเข้าถึงง่ายกว่าเดิม
และยังมีการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์จากร้านทองที่เชื่อถือได้ เช่น Bangkok Golds ซึ่งมีใบรับรองมาตรฐานทองคำแท้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุนทองคำในช่วงราคาสูง

การลงทุนทองคำแม้จะดูปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงในตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาขึ้นแรง ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

1. ศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดโลก

ติดตามราคาทองคำแบบเรียลไทม์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น

Gold Price
สมาคมค้าทองคำประเทศไทย
เพื่อดูแนวโน้มและเวลาที่เหมาะสมในการซื้อหรือขาย

2. เลือกผู้จำหน่ายทองคำที่น่าเชื่อถือ

หากซื้อทองคำแท่งหรือเครื่องประดับ ควรเลือกร้านที่มีมาตรฐาน เช่น Bangkok Golds
ซึ่งให้บริการทั้งหน้าร้านและออนไลน์ พร้อมใบรับรองทองคำแท้จากสมาคมค้าทองคำ

3. ไม่ควรลงทุนเกินกำลัง

ราคาทองคำมีความผันผวนในระยะสั้น
ผู้ลงทุนควรกระจายความเสี่ยง และใช้เงินเย็น ไม่ใช้เงินกู้หรือเงินหมุนในธุรกิจมาซื้อทอง

สรุป: ราคาทองคำทะลุ 60,000 บาท บอกอะไรกับเรา?

การที่ราคาทองคำพุ่งทะลุ 60,000 บาท ไม่ได้เป็นเพียง “สัญญาณของการลงทุน”
แต่ยังสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ความผันผวนของค่าเงิน และพฤติกรรมการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน

ทองคำยังคงเป็นเครื่องมือเก็บมูลค่าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก แต่การตัดสินใจลงทุนควรอยู่บนพื้นฐานของ ข้อมูล ความรู้ และความพร้อมของแต่ละคน

หากต้องการเลือกทองคำแท้คุณภาพดี หรือเครื่องประดับมงคลที่เสริมดวงและทรัพย์ สามารถเยี่ยมชมได้ที่
👉 www.bangkokgolds.com
หรือ Facebook: Bangkok Golds Official

แหล่งอ้างอิง: