เคยสงสัยไหมว่าทำไมเมื่อซื้อทอง ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคาทอง?ค่าบล็อกทองแท่ง คืออะไรกันแน่? ทำไมเราไม่สามารถจ่ายแค่ราคาทองอย่างเดียวได้? วันนี้บางกอกโกลด์ส มีคำตอบเกี่ยวกับค่ากำเหน็จและค่าบล็อกที่คนอยากลงทุนทองต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อทอง
ค่ากำเหน็จคืออะไร?
ค่ากำเหน็จ คือ ค่าแรงหรือค่าจ้างของช่างทองสำหรับขึ้นรูปทองรูปพรรณแต่ละลาย เช่น สร้อยคอ แหวน กำไล หรือต่างหู โดยค่ากำเหน็จจะมีราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับลวดลายว่ายากหรือง่าย เริ่มต้นตั้งแต่บาทละ 600-1,200 บาท ซึ่งเมื่อซื้อทองรูปพรรณ จะต้องจ่ายค่าทองตามราคาตลาดบวกกับค่ากำเหน็จเพิ่มเติม
วิธีคิดค่ากำเหน็จ
การคำนวณค่ากำเหน็จทองรูปพรรณมีสูตรง่าย ๆ คือราคาที่ต้องจ่าย = (ราคาทองคำ x น้ำหนักทองคำหน่วยบาท) + (ค่ากำเหน็จต่อน้ำหนักทอง 1 บาท)
- ตัวอย่างเช่น หากราคาทองขายบาทละ 40,000 บาท และมีค่ากำเหน็จ 1,000 บาท ราคาทองรูปพรรณที่ขายออกจะเท่ากับ 41,000 บาท และถ้าเป็นสร้อยคอ 1 สลึง จะคำนวณได้โดย (40,000/4) + 1,000 = 11,000 บาท เป็นต้น
ทองรูปพรรณ 3 ประเภทที่ควรรู้จัก
- ทองรูปพรรณงานช่างทองโบราณ – เป็นงานฝีมือขึ้นรูปแบบโครงถัก แกะลายเฉพาะ มีลวดลายที่ประณีตและเป็นเอกลักษณ์ ค่ากำเหน็จของทองประเภทนี้มักมีราคาสูง บางลวดลายอาจมีค่ากำเหน็จสูงถึงบาทละ 3,000 บาท
- ทองรูปพรรณแบบเข้าชุด– ประกอบไปด้วยสร้อยคอ ต่างหู กำไลข้อมือ แหวน ที่ออกแบบมาให้เข้าชุดกัน เน้นความหรูหรา มักมีค่ากำเหน็จสูงกว่าปกติ
- ทองรูปพรรณที่ผลิตโดยเครื่องจักร – เป็นทองคำ 96.5% ที่ผลิตด้วยเครื่องทอสร้อย มักมีลวดลายเหมือนกัน ค่ากำเหน็จไม่สูงมากนัก
ค่าบล็อกทองแท่งคืออะไร?
ค่าบล็อกทองแท่ง คือค่าแรงในการผลิตทองคำแท่ง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากกระบวนการหลอมทองคำให้ออกมาเป็นรูปทรงแท่ง โดยมีราคาถูกกว่าค่ากำเหน็จของทองรูปพรรณ อยู่ที่ประมาณ 100-400 บาทต่อน้ำหนักทอง 1 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านจะกำหนดราคาที่แตกต่างกัน
วิธีคิดค่าบล็อก
การคำนวณค่าบล็อกทองแท่งมีสูตรคือราคาที่ต้องจ่าย = (ราคาทองคำ x น้ำหนักทองคำ) + ค่าบล็อก
- ตัวอย่างเช่น หากราคาทองคำแท่งขายบาทละ 40,000 บาท และมีค่าบล็อก 200 บาท สำหรับทองคำน้ำหนัก 2 บาท ราคาที่ต้องจ่ายคือ (40,000 x 2) + 200 = 80,200 บาท ค่าบล็อกจะแตกต่างกันตามน้ำหนักของทองที่ซื้อ
ซื้อทองกี่บาทไม่เสียค่าบล็อก
โดยทั่วไป หากซื้อทองคำแท่งหลอม (Cast Bar) ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 5 บาทขึ้นไป จะไม่ต้องเสียค่าบล็อก แต่ถ้าเป็นทองคำแท่งปั๊มโลโก้ (Minted Gold Bar) จะต้องเสียค่าบล็อกไม่ว่าจะซื้อทองคำหนักกี่บาทก็ตาม ดังนั้นหากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย การเลือกซื้อทองคำแท่งหลอมที่มีน้ำหนักมากกว่า 5 บาทจะช่วยลดต้นทุนได้
ทองแท่ง 2 ประเภท ที่ควรรู้จัก
- ทองแท่งหลอมเบ้า (Cast Bar)– ผลิตโดยการหลอมทองคำลงในเบ้าหล่อ มีผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน นิยมผลิตในน้ำหนักมาก เช่น 5 บาทขึ้นไป ไม่เน้นความสวยงามของลวดลาย แต่เน้นน้ำหนักและความบริสุทธิ์ของทอง มักมีราคาถูกกว่าและมักไม่ต้องเสียค่าบล็อกเมื่อน้ำหนักมากกว่า 5 บาท
- ทองแท่งแบบรีดแผ่น (Minted Bar) – ผลิตโดยการรีดทองให้เป็นแผ่นบาง แล้วปั๊มลวดลาย มีความสวยงาม ผิวเรียบเงางาม มักผลิตในน้ำหนักน้อย เช่น 1 สลึง หรือ 1 บาท เหมาะสำหรับการเป็นของขวัญ แต่ต้องเสียค่าบล็อกทุกน้ำหนัก
ซื้อทองแบบไหนดี?
การเลือกซื้อทองขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ หากท่านต้องการลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะยาว ทองคำแท่งหลอมเบ้าน้ำหนัก 5 บาทขึ้นไปจะเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะไม่ต้องเสียค่าบล็อก แต่หากต้องการใช้เป็นเครื่องประดับหรือของขวัญ ทองรูปพรรณหรือทองแท่งแบบรีดแผ่นที่มีลวดลายสวยงามเหมาะสมกว่า แม้จะต้องเสียค่ากำเหน็จหรือค่าบล็อกเพิ่ม
ซื้อทองที่ไหนดี?
Bangkok Golds หรือบางกอกโกลด์ส เป็นผู้นำด้านการจำหน่ายทองรูปพรรณและทองคำแท่งมาตรฐาน ด้วยประสบการณ์ยาวนาน มีสาขามากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ ท่านสามารถเช็กราคาทองวันนี้ได้ที่เว็บไซต์ของเรา และเลือกซื้อทองได้หลากหลายน้ำหนักทอง ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณหรือทองแท่ง ทุกชิ้นมีใบรับประกันคุณภาพทองคำ 96.5% หรือ 99.99% จากสมาคมค้าทองคำ สามารถขายคืนได้ง่ายที่บางกอกโกลด์สสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ท่านมั่นใจในการลงทุนทองคำคุณภาพ




